ศึก พรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้มีคู่ที่น่าสนใจหลายต่อหลายคู่ ถึงแม้ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี กำลังเจอกับสถานการณ์หนักและเลวร้ายอย่างมาก กับการประกาศคว่ำบาตร และอายัดทรัพย์ คงต้องเอาใจช่วยสโมสร เชลซีกันต่อไป แต่ศึก พรีเมียร์ลีกก็ยังคงดำเนินการแข่งกันต่อไป และแล้วก็จะมาถึงนัดที่29กันแล้ว เราไปไล่เรียงกันเลยว่ามีอะไรที่เด็ด ๆ ก่อนที่จะแข่งกันบ้าง?
- คู่ระหว่าง “ไบรท์ตัน-ลิเวอร์พูล”
ณ ตอนนี้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทำประตูบนศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้วทังสิ้น 1,998 ลูก และจะเป็นทีมที่2ต่อจาก ทีมปิศาจแดง ที่ถลุงประตูคู่แข่งแตะหลัก 2,000 ซึ่ง 10 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประตูที่ทำได้นั้น มาจาก2คู่หูแนวรุกในทีมชุดปัจจุบันอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (114) และ ซาดิโอ มาเน่ (86)
ทีม ไบรท์ตัน หลังจากที่แพ้ทั้ง 6 เกมแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่เจอกับ “หงส์แดง” ถัดมา 3 นัดหลังสุด ไบรท์ตัน ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล อีกเลย โดยเป็นการชนะ 1 เสมอ 2 ซึ่งยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ เองยังไม่เคยไม่ชนะ “เดอะ ซีกัลส์” 4 นัดติดต่อกันทุกรายการ
ทีม ไบรท์ตัน แพ้มารวด 4 เกมหลังที่ลงเล่น ซึ่งพวกเขาไม่เคยแพ้ใคร 5 เกมติดต่อกันตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2007 สมัยที่ทำศึกระดับ ลีก วัน
2.คู่ระหว่าง “แมนฯ ยูไนเต็ด-สเปอร์ส”
ดาวยิง ไก่เดือยทอง สเปอร์ส แฮร์รี่ เคน ยิงประตูเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 93 ลูกจาก 137 เกม โดยเจ้าตัวขาดแค่อีก 1 ลูกก็จะทำสถิติเทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์ ที่เป็นนักเตะที่ทำประตูนัดเยือนได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ลีก
ปิศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหาชัยชนะเกมลีกเหนือ ทีมสเปอร์ส 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เคยทำได้ตอนช่วงระหว่างเดือนเมษายน ปี 2009 ถึงเดือนตุลาคม ปี 2010
แต่อย่างไรก็ดี “ไก่เดือยทอง” สามารถเอาชนะ ทีม”ปีศาจแดง” ได้ 2 จาก 3 เกมหลังสุดที่บุกไปเยือนสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (แพ้ 1) ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ 26 เกมที่พวกเขาเอาชนะได้ 2 ครั้ง (เสมอ 3 แพ้ 21)
โดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีส่วนร่วมกับประตู 7 ลูกจาก 5 เกมหลังสุดที่เจอกับทีมไก่เดือยทอง สเปอร์ส บนเวที พรีเมียร์ลีก (4 ประตู 3 แอสซิสต์) โดยทั้งประตูกับแอสซิสต์ มาจาก 3 เกมที่ไม่ซ้ำกัน
3.คู่ระหว่าง “นิวคาสเซิล-เชลซี”
ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดย กุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว สามารถบุกเอาชนะ ทีม เชลซี ได้ถึง 3 ครั้งจากเกมพรีเมียร์ลีก 5 นัดหลังสุด (แพ้ 2) โดยหากนับกุนซือทั้งหมดที่เคยบุกชนะที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้อย่างน้อย 3 ครั้ง เอ็ดดี้ ฮาว เป็นคนที่อัตราการชนะที่นี่สูงสุดที่ 60 เปอร์เซ็นต์เลย
แต่อย่างไรก็ตามทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สามารถเอาชนะ ทีม”สาลิกาดง” ได้ตลอด 8 เกมลีกหลังสุดที่เล่นในบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นสถิติของทีมที่เอาชนะคู่แข่งรายเดิมติดต่อกันนานสุดเป็นอันดับที่ 4 โดยสถิติสูงสุดพวกเขาเคยชนะต่อ โบลตัน ในบ้าน 9 นัดติดต่อกันตอนช่วงระหว่างปี 1976-2003
นิวคาสเซิล แพ้ถึง 23 นัดจาก 24 เกมลีกที่ออกไปเยือนในการเผชิญหน้ากับทีมกลุ่มTop 3 เกมเดียวที่พวกเขาไม่แพ้คือการเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 ตอนเดือนพฤษภาคม ปี 2021
ในฤดูกาลนี้ ไม่มีผู้เล่น เชลซี คนใดที่ทำประตูที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทุกรายการได้มากกว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ (5) อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม แข้งทีมชาติเยอรมนี ทำประตูที่สนามแห่งนี้ในลีกได้แค่1ลูกเท่านั้น คือเกมที่เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน
- คู่ระหว่าง “อาร์เซน่อล-เลสเตอร์”
ทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เคยมาบุกมาที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 1-0 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถึงเป็นการยุติการไร้ชัยที่บ้าน อาร์เซน่อ 23 เกมลีก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม “เดอะ ฟ็อกซ์” ยังไม่เคยบุกชนะ “ปืนใหญ่” 2 นัดติดได้เลย
ทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล มองหาชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ทั้งไป-กลับให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 หลังจากเกมแรกเอาชนะที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม 2-0 ตอนต้นฤดูกาล
ทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เก็บคะแนนได้ถึง 25 แต้มจาก 30 เกมหลังสุด (ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1) ซึ่งไม่มีทีมไหนที่เก็บคะแนนในช่วง 10 เกมหลังได้มากกว่าพวกเขาอีกแล้ว (เท่ากับ แมนฯ ซิตี้)
2เกมหลังสุดของ ทีมเลสเตอร์ คือการเก็บชัยได้เหนือ เบิร์นลี่ย์ 2-0 และทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 โดยพวกเขาไม่สามารถคว้าชัยแบบเก็บคลีนชีต 3 นัดติดได้เลยนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ซึ่งตอนนั้นเกมที่ 3 “เดอะ ฟ็อกซ์” สามารถเอาชนะ ทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ได้ 2-0
5.คู่ระหว่าง “คริสตัล พาเลซ-แมนฯ ซิตี้”
ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้เกมเยือนในลีกมาแล้ว 13 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่ที่แพ้ ทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตอนนัดเปิดฤดูกาล (ชนะ 11 เสมอ 2) โดยสถิติที่พวกเขาไม่แพ้เกมเยือนนานสุดเกิดขึ้นตอนช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนธันวาคมปี 2018 (14 เกม)
ส่วนทีม คริสตัล พาเลซ มองหาชัยชนะเหนือ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไป-กลับให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1987/88 ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ลีกระดับดิวิชั่น 2 ซึ่งเกมแรกที่เจอกัน “ดิ อีเกิ้ลส์” สามารถบุกชนะที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม 2-0
วิลฟรีด ซาฮา ทำประตูที่ 9 ของตัวเองในลีกฤดูกาลนี้ในเกมที่เจอ วูล์ฟส์ โดย 8 เกมหลังสุดเจ้าตัวซัดได้ถึง 5 ประตู ซึ่งหลังจากที่ฤดูกาลก่อนเขาทำประตูไป 11 ลูกได้นั้น มาในปีนี้เขาก็หวังว่าจะมีประตูแตะเลข2หลังสองปีติดต่อกันให้ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตการค้าแข้ง
ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะทีม คริสตัล พาเลซ ได้ถึง 5 จาก 6 เกมลีกที่เจอกันที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค (เสมอ 1) โดยเกมสุดท้ายที่แพ้ที่นี่เกิดขึ้นในเกมมันเดย์ ไนท์ ตอนเดือนเมษายน ปี 2015